ฟุตบอลทีมชาติอิรัก

ฟุตบอลทีมชาติอิรัก (อาหรับ: منتخب العراق لكرة القدم) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของสาธารณรัฐอิรัก อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสมาคมฟุตบอลอิรัก (IFA) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1948 และได้เข้าร่วมเป็นชาติสมาชิกของฟีฟ่า ในปี 1950 จากนั้นได้เข้าเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ในปี 1970 และเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันตก (WAFF) ในปี 2000

อิรัก
Shirt badge/Association crest
ฉายาThe Lion of Mesopotamia
สิงโตแห่งสองแม่น้ำ (ในภาษาไทย)
สมาคมสมาคมฟุตบอลอิรัก (IFA)
สมาพันธ์ย่อยWAFF (เอเชียตะวันตก)
สมาพันธ์เอเอฟซี (เอเชีย)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนJesús Casas
กัปตันซะอัด อับดุลอะมีร
ติดทีมชาติสูงสุดยูนิส มะห์มูด (148)
ทำประตูสูงสุดฮุสซัยน์ ซะอีด (78)
สนามเหย้าสนามกีฬานานาชาติบัสรา
รหัสฟีฟ่าIRQ
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 55 เพิ่มขึ้น 3 (20 มิถุนายน 2024)[1]
อันดับสูงสุด39 (6 ตุลาคม ค.ศ. 2004)
อันดับต่ำสุด139 (3 กรกฎาคม ค.ศ. 1996)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติโมร็อกโก โมร็อกโก 3–3 อิรัก
(เบรุต ประเทศเลบานอน; 19 ตุลาคม ค.ศ. 1957)
ชนะสูงสุด
อิรัก 13–0 เอธิโอเปีย
(อิรบิด ประเทศจอร์แดน; 18 สิงหาคม ค.ศ. 1992)
แพ้สูงสุด
ธงชาติตุรกี ตุรกี 7–1 อิรัก
(อาดานา ประเทศตุรกี; 6 ธันวาคม ค.ศ. 1959)
ธงชาติบราซิล บราซิล 6–0 อิรัก
(มัลเมอ ประเทศสวีเดน; 11 ตุลาคม ค.ศ. 2012)
ธงชาติชิลี ชิลี 6–0 อิรัก
(โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก; 14 สิงหาคม ค.ศ. 2013)
ฟุตบอลโลก
เข้าร่วม1 (ครั้งแรกใน 1986)
ผลงานดีที่สุดร��บกลุ่ม (1986)
เอเชียนคัพ
เข้าร่วม9 (ครั้งแรกใน 1972)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ (2007)
อาหรับคัพ
เข้าร่วม6 (ครั้งแรกใน 1964)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ (1964, 1966, 1985, 1988)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก
เข้าร่วม7 (ครั้งแรกใน 2000)
ผลงานดีที่สุดชนะเลิศ (2002)
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ
เข้าร่วม1 (ครั้งแรกใน 2009)
ผลงานดีที่สุดรอบกลุ่ม (2009)

ทีมชาติอิรักถือว่าเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากชาติหนึ่งในกลุ่มประเทศแถบอาหรับ เคยเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 4 ครั้ง (1980,1984,1988,2004) โดยผลงานดีที่สุดของทีมชาติอิรักในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคือการคว้าอันดับ 4 ในโอลิมปิก 2004 ที่ประเทศกรีซ และเคยผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 1 ครั้ง ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก

สำหรับผลงานในระดับทวีปเอเชียนั้นทีมชาติอิรักเคยได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 1982 ที่กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย และสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอเชียนคัพ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียได้ 1 สมัย ในปี 2007

ส่วนในการแข่งขันในระดับภูมิภาค ทีมชาติอิรักเคยชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ในปี 2002 รวมถึงคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการ อาหรับ เนชันส์คัพ ได้ถึง 4 สมัย (ปี 1964,1966,1984,1988)

นอกจากนี้ทีมชาติอิรักยังเคยได้รับเลือกจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ให้เป็นทีมชาติยอดเยี่ยมประจำทวีปเอเชียถึง 2 ครั้ง (ปี 2003 และ 2007) โดยเป็นชาติเดียวในเอเชียตะวันตกที่เคยได้รับรางวัลนี้

ประวัติ

แก้

ยุคแรก

แก้

อิรักลงแข่งขันฟุตบอลในระดับชาติครั้งแรกกับทีมชาติโมร็อกโก โดยแข่งขันกันที่ประเทศเลบานอน ในปี ค.ศ. 1957 ซึ่งเสมอกันไป 3–3 จากนั้นได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรก ในการคัดเลือกฟุตบอลโลก 1974

ยุค 1970–1980 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของวงการฟุตบอลในประเทศอิรัก โดยอิรักสามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในฟุตบอลโลก 1986 ที่สหรัฐเม็กซิโก และผ่านเข้าไปเล่นในโอลิมปิก 3 ครั้งติดต่อกันในโอลิมปิกฤดูร้อน 1980 ที่กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต, โอลิมปิกฤดูร้อน 1984 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาและโอลิมปิกฤดูร้อน 1988 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้

นอกจากนี้อิรักยังคว้าแชมป์เอเชียนเกมส์ 1982 , แชมป์อาหรับเนชันส์คัพ 4 สมัย ,แชมป์กัลฟ์คัพ 3 สมัย และคว้าอันดับ 4 ในเอเชียนคัพ 1976

ฟุตบอลโลก 1986

แก้

ในฟุตบอลโลก 1986 รอบคัดเลือกรอบสุดท้าย โซนเอเชีย อิรักต้องแข่งขันกับทีมชาติซีเรีย โดยนัดแรกที่ดามัสกัสทั้งสองทีมเสมอกันไป 0–0 และนัดที่สองที่เมืองทาอิฟ อิรักสามารถเอาชนะไป 3–1 และผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ในฟุตบอลโลก 1986 อิรักลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ เอวาริสตู เดอ มาเชดู อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิล ที่เคยค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาและเรอัลมาดริด โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับทีมชาติปารากวัย, ทีมชาติเบลเยียม และทีมชาติเม็กซิโก โดยอิรักลงเล่นฟุตบอลโลกนัดแรกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ.1986 ด้วยการแพ้ทีมชาติปารากวัย 1–0 ที่สนามเนเมซิโอ ดิเอซ เมืองโตลูกา และมายิงประตูในฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันนัดที่สองที่แพ้ให้กับทีมชาติเบลเยียม 1–2 โดย อาเหม็ด รอฎีย์ ได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้ยิงประตูแรกและประตูเดียวให้กับทีมชาติอิรักได้ในฟุตบอลโลก จากนั้นทีมชาติอิรักได้ลงแข่งนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มกับเจ้าภาพอย่างเม็กซิโก และแพ้ไป 1–0 ตกรอบไปในที่สุด

ยุคมืด (1990-99)

แก้

ในช่วงยุครัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน นั้น ทีมชาติอิรักควบคุมโดยลูกของประธ��นาธิบดีซัดดัม คือ อูเดย์ ฮุสเซน โดยภายใต้การควบคุมนั้น จะมีการลงโทษและข่มขู่อย่างแรง ไม่ว่าจะโดนให้ตัดขาถ้าขาดซ้อม หรือจับขังคุก เตะลูกบอลเหล็ก รวมไปถึงถูกเฆี่ยนด้วยแส้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งการลงโทษนี้รวมไปถึง นักฟุตบอลที่ยิงลูกจุดโทษพลาดในการแข่งขันนัดสำคัญ [2] ซึ่งภายหลังจากที่ประเทศถูกคุมคามจากสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2546 ทีมชาติได้มีผู้จัดการคนใหม่เข้ามา คือ อัดนัน ฮามัด ซึ่งมีผลงานทำให้ทีมชาติอิรัก ผ่านรอบคัดเลือกในการแข่งขัน โอลิมปิก 2004 โดยชนะ ทีมชาติคอสตาริกา ทีมชาติโปรตุเกส และทีมชาติออสเตรเลีย โดยได้อันดับที่ 4 ในการแข่งขัน

ผู้เล่น

แก้

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

แก้

รายชื่อผู้เล่น 26 คนที่ถูกเรียกตัวในการแข่งขัน คิงส์คัพ 2023 ระหว่างวันที่ 4–12 กันยายน พ.ศ. 2566[3]

ข้อมูลการลงเล่นและการทำประตูนับถึงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2566 หลังจากการพบกับ   โคลอมเบีย

หน้า แม่แบบ:Tooltip/styles.css ไม่มีเนื้อหา0#0 ตำแหน่ง ผู้เล่น วันเกิด (อายุ) ลงเล่น ประตู สโมสร
1GK ญะลาล ฮะซัน (captain) (1991-05-18) 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 (33 ปี) 72 0   อัซเซารออ์
1GK Fahad Talib (1994-10-21) 21 ตุลาคม ค.ศ. 1994 (29 ปี) 18 0   Sanat Naft Abadan
1GK Ahmed Basil (1996-08-19) 19 สิงหาคม ค.ศ. 1996 (27 ปี) 2 0   Al-Shorta

2DF Ali Adnan (1993-12-19) 19 ธันวาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 85 7   Mes Rafsanjan
2DF รีบีน ซูลากอ (1992-04-12) 12 เมษายน ค.ศ. 1992 (32 ปี) 28 0   Brommapojkarna
2DF Manaf Younis (1996-11-16) 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1996 (27 ปี) 15 1   Al-Shorta
2DF ฟรานส์ ปุตรอส (1993-07-14) 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 10 0   การท่าเรือ
2DF Merchas Doski (1999-12-07) 7 ธันวาคม ค.ศ. 1999 (24 ปี) 3 0   Slovácko
2DF Ahmed Yahya (1997-05-27) 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1997 (27 ปี) 2 0   Al-Shorta
2DF Hussein Ali (2002-03-01) 1 มีนาคม ค.ศ. 2002 (22 ปี) 0 0   เฮเรินเฟน
2DF Masies Artien (1993-08-08) 8 สิงหาคม ค.ศ. 1993 (30 ปี) 0 0   Spakenburg

3MF Amjad Attwan (1997-03-12) 12 มีนาคม ค.ศ. 1997 (27 ปี) 74 3 Unattached
3MF Bashar Resan (1996-12-22) 22 ธันวาคม ค.ศ. 1996 (27 ปี) 53 3   Qatar
3MF ฮุสซัยน์ อะลี (1996-11-29) 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1996 (27 ปี) 49 6 Unattached
3MF Ibrahim Bayesh (2000-05-01) 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 (24 ปี) 40 6   Al-Quwa Al-Jawiya
3MF Osama Rashid (1992-01-17) 17 มกราคม ค.ศ. 1992 (32 ปี) 24 0   Vizela
3MF Amir Al-Ammari (1997-07-27) 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1997 (26 ปี) 17 1   Halmstads
3MF Ahmed Farhan (1999-01-01) 1 มกราคม ค.ศ. 1999 (25 ปี) 7 0   Al-Shorta
3MF ซีดาน อิกบาล (2003-04-27) 27 เมษายน ค.ศ. 2003 (21 ปี) 3 0   ยูเทรกต์
3MF André Alsanati (2000-01-06) 6 มกราคม ค.ศ. 2000 (24 ปี) 0 0   Sirius

4FW อัยมัน ฮุซัยน์ (1996-03-22) 22 มีนาคม ค.ศ. 1996 (28 ปี) 62 14 Unattached
4FW Mohanad Ali (2000-06-20) 20 มิถุนายน ค.ศ. 2000 (24 ปี) 37 17   Al-Duhail
4FW Ali Al-Hamadi (2002-03-01) 1 มีนาคม ค.ศ. 2002 (22 ปี) 6 0   AFC Wimbledon

ชุดแข่งขัน

แก้
ช่วงปี ผู้สนับสนุน
1984–1986   อัมโบร
1986–1994   อาดิดาส
1996   พูมา
2004–2005   แจ็ค แอนด์ โจนส์
2006   อาดิดาส
2007   อัมโบร
2008–2014   พีค
2014   อาดิดาส
2014–2019   จาโค
2019–2020   Givova
2020–2022[4]   อัมโบร
2022–   จาโค

ผลงาน

แก้
  • ตัวหนา คือผลงานที่ดีที่สุดในรายการนั้นๆ
  • 1930 ถึง 1970 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 1974 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก
  • 1978 - ถอนตัว
  • 1982 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก
  • 1986 - รอบแรก
  • 1990 ถึง 2022 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก
  • 1956 ถึง 1968 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 1972 - รอบแรก
  • 1976 - อันดับ 4
  • 1980 ถึง 1992 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 1996 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 2000 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 2004 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 2007 - ชนะเลิศ
  • 2011 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 2015 - อันดับ 4
  • 2019 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 2023 - รอบ 16 ทีมสุดท้าย
  • 1951 ถึง 1970 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 1974 - รอบแรก
  • 1978 - อันดับ 4
  • 1982 - เหรียญทอง
  • 1986 - รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • 1990 ถึง 2002 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 2006 - เหรียญเงิน
  • 2010 - ถูกแบน
  • 2014 - เหรียญทองแดง
  • 2018 - ถูกแบน
  • 2000 - อันดับ 3
  • 2002 - ชนะเลิศ
  • 2004 - อันดับ 4
  • 2007 - รองชนะเลิศ
  • 2008 - ถอนตัว
  • 2010 - รอบรองชนะเลิศ
  • 2012 - รองชนะเลิศ
  • 1963 - ไม่ได้เข้าร่วม
  • 1964 - ชนะเลิศ
  • 1966 - ชนะเลิศ
  • 1985 - ชนะเลิศ
  • 1988 - ชนะเลิศ
  • 1992 ถึง 2002- ถูกแบน
  • 2012 - อันดับสาม

ผลงานอื่น ๆ

แก้

อดีตผู้เล่นคนสำคัญ

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 20 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2024.
  2. ข่าวทีมชาติอิรัก "ฟุตบอลในอิรักเป็นเรื่องของความเป็นความตาย" (อังกฤษ)
  3. "September Squad". Twitter (ภาษาอาหรับ). Iraq Football Podcast. สืบค้นเมื่อ 20 August 2023.
  4. "Umbro X Iraq Football Association". umbro.com. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้