อาคาร Le19M เป็นสถานที่ที่รวบรวมช่างฝีมือชั้นสูงทุกแขนงเอาไว้ในที่เดียวที่ร่วมสร้างผลงานสุดตระการตามากมาย ดีไซน์สะดุดตาด้วยคอนกรีตสูงที่มีเสา 231 แท่งวางขัดกันเป็นโครงด้านนอก ได้แรงบันดาลใจจากเส้นด้ายแนวยืนในการทอผ้า ซึ่งออกแบบโดย Rudy Ricciotti ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 25,000 ตารางเมตร ไม่เพียงเท่านี้ชื่อของอาคารยังมีนัยยะ��ชื่อมโยงกับแบรนด์ Chanel นั่นคือ เลข 19 ที่เป็นวันเกิดของ Coco Chanel ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ทว่ายังหมายถึงสถานที่ที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองที่ 19 ของกรุงปารีส นอกจากนี้อักษร M ที่หมายถึง Mains แปลว่า มือ ในภาษาฝรั่งเศส มีนัยยะสำคัญถึงการสร้างสรรค์ผลงานด้วยมือ Métier แปลว่า งานช่างฝีมือ และ Mode ที่แปลว่า แฟชั่น เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่รวบรวมผลงานอันทรงคุณค่า โรงเรียนสอนงานฝีมือ และเป็นศูนย์กลางช่างฝีมือชั้นสูงของโลก

 

     ความพิเศษในครั้งนี้ "ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์" ร่วมเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟไปกับโว้กเยือนอาคาร Le19M พาเยี่ยมชมเมซงทั้ง 3 เมซงที่โดดเด่น เริ่มต้นกันที่เมซงแรก Lesage ผู้อยู่เบื้องหลังงานปักสุดวิจิตรของคอลเล็กชั่น Métiers d'Art กับ Haute Couture ของแบรนด์ ตลอดจนผ้าทวีดทอลายหลากหลายรูปแบบ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย ช่างปักและถักทอที่ถ่ายทอดความชำนาญการของช่างศิลป์ชั้นครูนานนับร้อยปีสู่ผลงานอันพิถีพิถัน ตลอดจนการเลือกสรรวัสดุที่หลากหลายและเน้นความยั่งยืนเป็นหลัก ทั้งนี้ชาเนลยังให้ความสำคัญในเรื่องของศิลปะอันทรงคุณค่าอีกด้วย ในปัจจุบันคลังมรดกของเลอซาจได้เก็บรวบรวมตัวอย่างงานปักเอาไว้กว่า 75,000 ชิ้น เปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่าของงานปักชั้นสูงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอกย้ำความสำเร็จขั้นกว่าเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนสอนงานปักเพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูงสู่คนรุ่นใหม่ให้ได้สืบสานต่อไป 

    ถัดมาที่ Lemarié เมซงช่างศิลป์ที่สืบสานงานหัตถศิลป์นานร่วมร้อยปี และเลื่องชื่อในเรื่องของการผลิต ‘ดอกคามิลเลีย’ ดอกไม้ไฮไลต์ที่มีกลีบดอกบางละมุนตาผลิตขึ้นจากผ้าไหม ผ้าตาข่าย และผ้าทวีด ได้รังสรรค์ขึ้นที่นี่กว่า 25,000 ดอกต่อปี ไม่เพียงเท่านี้ยังชำนาญด้านการผลิตขนนกสำหรับตกแต่งหมวกและขนนกสำหรับคณะคาบาเรต์ที่มีคว���มโดดเด่นในการจัดเรียงขนนกที่สวยงามและการย้อมสีสั��ให้ขนนกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งเมซงแห่งนี้ได้เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์กับชาเนลอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1996 นับตั้งแต่ Virginie Viard ดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ให้กับแบรนด์ Lemarié ได้มีส่วนรวมในการสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ให้ชาเนลราวสิบคอลเล็กชั่นต่อปี

    ปิดท้ายด้วย Lognon เมซงที่เชี่ยวชาญที่สืบสานกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนับตั้งแต่ปี 1853 จึงเป็นเมซงที่ผลิตผ้าอัดพลีตด้วยความละเอียดแม่นยำในการสร้างสรรค์งานอัดพลีต และมีแม่แบบพลีตแตกต่างกันไปกว่า 3,000 แบบในคลังมรดกของเมซง ตลอดจนอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากช่างฝีมือในการนำผ้าลงแม่พิมพ์และเข้าเครื่องอัดพลีตที่มีอุณหภูมิสูงเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด เมซงแห่งนี้ได้ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับชาเนลในปี 2013 ภายใต้การดูแลของ Gérard Lognon ทายาทผู้สืบสานกิจการของครอบครัว

 

     ทั้งหมดนี้ทำให้หวนนึกถึงเบื้องหลังในการสร้างสรรค์ผลงานของคอลเล็กชั่นไฮไลต์ Métiers d'Art ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและสดุดีงานช่างฝีมือชั้นสูงผู้อยู่เบื้องหลังผลงานสง่างามของแบรนด์โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันชาเนลยังคงต้องการอนุรักษ์งานฝีมือผสานความงดงามทางศิลปะเพื่อนำเสนอดีเอ็นเอของแบรนด์ให้มั่นคงเฉกเช่นที่เป็นมา นอกจากนี้ยังมีช่างฝีมือและเมซงอีกหลายแขนงที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานในคอลเล็กชั่นนี้ให้เราได้เห็นกันอยู่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

 

ข้อมูล : Courtesy of CHANEL