ข้ามไปเนื้อหา

คาซัดดูม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(ต่าง) ←รุ่นเก่ากว่านี้ | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นที่ใหม่กว่า → (ต่าง)
ห้องโถงใหญ่ในอาณาจักรดวาโรว์เดล์ฟ จากภาพยนตร์ไตรภาคลอร์ดออฟเดอะริงส์

คาซัด-ดูม (Khazad-dûm) เป็นชื่ออาณาจักรแห่งหนึ่งบนมิดเดิลเอิร์ธ ในนิยายแฟนตาซีเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน คำว่า คาซัด เป็นคำในภาษาคุซดุลที่เหล่าคนแคระใช้เรียกตัวเอง คาซัดดูม หมายถึง "เคหาของคนแคระ" ชื่อนี้ในภาษากลางของมิดเดิลเอิร์ธหรือภาษาเวสทรอน เรียกว่า ดวาโรว์เดล์ฟ (Dwarrowdelf) ส่วนคำว่า มอเรีย เป็นภาษาซินดาริน มีความหมายว่า "ปล่องเหวมืด" ซึ่งเป็นชื่อที่พวกเอลฟ์ใช้เรียกอาณาจักรแห่งนี้ ด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์

คาซัดดูมตั้งอยู่ข้างใต้เทือกเขามิสตี้ มีทางเข้าออกเชื่อมต่อทั้งฟากตะวันออกและฟากตะวันตก เป็นเหมืองแร่มิธริลที่ใหญ่ที่สุดและเป็นอาณาจักรคนแคระที่ใหญ่ที่สุดในมิดเดิลเอิร์ธด้วย ในยุคที่สาม คาซัดดูมตกต่ำ��งหลังจากขุดแร่ลึกเกินไปจนปลุกเอามฤตยูบัลร็อกตื่นขึ้น ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ปี 1981 ซึ่งบัลร็อกออกอาละวาดจนอาณาจักรต้องล่มสลายลงรวมถึงอาณาจักรใกล้เคียงเช่นลอริเอนด้วย หลังจากนั้นมีความพยายามฟื้นฟูคาซัดดูมขึ้นอีกแต่ไม่เป็นผล คณะพันธมิตรแห่งแหวนเคยเดินทางผ่านอาณาจักรร้างนี้ในช่วงปลายยุคที่สามในระหว่างภารกิจการนำแหวนเอกไปทำลาย

ประวัติ[แก้]

คาซัด-ดูม เป็นอาณาจักรของคนแคระที่ใหญ่ที่สุดในมิดเดิลเอิร์ธ เป็นอาณาจักรที่สวยงามภายใต้ เทือกเขามิสตี้ ซึ่ง ดูริน ผู้อมตะ (Durin The Deathless) กษัตริย์ของพวกเขาเป็นผู้บุกเบิก ตั้งแต่ยุคที่หนึ่ง เป็นอาณาจักรของคนแคระ ในสายวงศ์ ลองเบียร์ด (Longbeard)

ดูริน มีชีวิตที่ยืนยาวและปกครองผู้คนของเขาหลายปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตก่อนสิ้นสุดยุคที่หนึ่ง แต่วงศ์วานของเขาก็ยังสืบต่อมา และอาณาจักรของเขาก็เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นต่อมาหลายพันปี ภายในท้องพระโรงถูกประดับประดาไปด้วยแสงสว่างจากไฟและดนตรี พวกคนแคระร่ำรวยมั่งคั่งมากขึ้น เมื่อพวกเขาค้นพบแร่อันล้ำค่าสีเงิน สามารถตีเป็นแผ่นบางๆได้เรียกว่า มิธริล ซึ่งหาไม่ได้จากที่อื่นในมิดเดิลเอิร์ธ พวกเขาสร้างอาวุธที่มีความประณีตและสวยงามหลายสิ่ง เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับอาหารของพวกมนุษย์

ในยุคที่สอง ชื่อเสียงของความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรก็มีมากขึ้นอีก มีพวกคนแคระจำนวนมากอพยพมาเข้าร่วมจากเทือกเขาเอเร็ดลูอิน หรือเทือกเขาสีน้ำเงิน หลังจากที่โนกร็อดและเบเลกอสต์เมืองของพวกเขา ถูกทำลายในระหว่างสงครามแห่งความโกรธา และการปราบมอร์กอธในช่วงสิ้นสุดยุคที่หนึ่ง ทำให้อาณาจักรแห่งนี้รุ่งเรืองอย่างมาก

ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรคาซัดดูมกับเหล่าเอลฟ์ เริ่มขึ้นในยุคที่สอง หลังจากสิ้นแผ่นดินเบเลริอันด์ พวกเอลฟ์ชาวโนลดอร์เดินทางออกมาทางตะวันออก และตั้งอาณาจักรของชาวโนลดอร์ลี้ภัยขึ้นที่ เอเรกิออน เชิงเทือกเขามิสตี้ด้านทิศตะวันตก ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้เริ่มเปิดการทูตและการค้าระหว่างกัน นายช่างใหญ่ของคนแคระชื่อ นาร์วิ (Narvi) ได้สร้าง ประตูตะวันตก ของคาซัดดูมขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ฝ่ายเอลฟ์ก็ส่งช่างฝีมือเอกของตน คือ เคเลบริมบอร์ มาช่วยงานประดิษฐ์บนบานประตู เขาได้ใช้ อิธิลดิน แร่ธาตุชนิดหนึ่งที่จะส่องแสงสว่างเรืองเมื่อโดนแสงจันทร์ มาจารึกภาพและอักขระบนบานประตู ข้อความบนบานประตูคือ "Ennin Durin aran Moria. Pedo mellon a mino" หมายถึง "ทวาราแห่งดูริน ลอร์ดแห่งมอเรีย จงเอ่ย สหาย และเข้ามา" เป็นข้อความปริศนาสำหรับผู้ทราบรหัสเปิดประตู ซึ่ง แกนดัล์ฟ โฟรโด และเหล่าพันธมิตรแห่งแหวน ได้มาพบในเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์

ในช่วงเหตุการณ์เกี่ยวกับสร้างแหวนสามวงของพวกเอลฟ์นั้น เมื่อเซารอนล่วงรู้ว่าแหวนถูกสร้างโดยปราศจากการรู้เห็นของเขา เซารอนจึงเปิดศึกกับพวกเอลฟ์ อาณาจักรเอเรกิออน (Eregion) ถูกทำลาย เคเลบริมบอร์ถูกสังหาร ดูรินที่สาม ส่งกองทัพคนแคระเข้าช่วยเหลือพวกเอลฟ์ แต่พวกเขาต้องล่าถอย ทวารแห่งดูรินถูกปิดสนิทและเซารอนก็ไม่สามารถทลายประตูได้ เซารอนโกรธมากจึงสั่งให้พวกออร์คไล่ล่าคนแคระทันทีที่พบ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม การติดต่อกันระหว่างอาณาจักรของคนแคระ เป็นไปอย่างลำบากและถูกรังควานโดยพวกออร์ค

ระหว่างสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย พวกคนแคระจากคาซัดดูมได้ส่งกองทัพเข้าร่วมรบกับพวกมนุษย์และเอลฟ์ด้วย เซารอนพ่ายแพ้ แหวนเอกธำมรงค์หายสาบสูญ

เมื่อเซารอนกลับมาอย่างลับๆ ปีศาจร้ายก็หวนคืนพวกออร์คโจมตีพวกคนแคระในแถบเทือกเขามิสตี้ แต่พวกมันไม่สามารถเข้าถึงคาซัดดูมได้ คนแคระแห่งคาซัดดูมยังคงรักษาความมั่งคั่งอยู่ได้ แต่ทว่าประชากรเริ่มลดลงทีละเล็กน้อย เพราะพวกเขามัวแต่สนใจการขุดหาแร่มิธริลซึ่งหายากขึ้นทุกที

ระหว่างการขุดหาแร่ พวกคนแคระได้ค้นพบ อสูรกายร้ายที่หลับใหลอยู่ในส่วนลึกใต้สุดของคาซัดดูม มันคือ บัลร็อก (Balrog) ปีศาจที่มีร่างเป็นไฟ มันหลบหนีจาก สงครามแห่งความโกรธา และมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เมื่อบัลร็อกถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ดูรินที่หกถูกบัลร็อกสังหาร และในปีต่อมาบุตรของเขาคือ นาอินที่หนึ่ง(Nain I)ก็ถูกสังหารเช่นกัน พวกคนแคระแห่งคาซัดดูมต่างหนีออกมาและอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย

หลังจากนั้นคาซัดดูมเป็นที่รู้จักกันในนาม 'มอเรีย' และน้อยคนนักที่จะกล้าเข้าไปในมอเรีย เซารอนส่งพวกโทรลล์ ออร์ค และปีศาจร้ายอื่นๆ มาอาศัยอยู่ที่นี่

จนกระทั่ง ธราอิน (Thrain) กษัตริย์พวกคนแคระ รวบรวมกำลังทำสงครามกับพวกออร์คในเทือกเขามิสตี้ กลายเป็นสงครามระหว่างออร์คและคนแคระครั้งใหญ่ เร��ยกชื่อว่า สงครามอซานูลบิซาร์ (Battle of Azanulbizar) พวกคนแคระเป็นฝ่ายชนะ แต่ทว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าไปต่อกรกับบัลร็อก

ต่อมา บาลิน (Balin) นำกองทัพคนแคระจากภูเขาโลนลี่ กลับมายังคาซัดดูม และสามารถไล่พวกออร์คที่เฝ้าทางเข้าอยู่ได้ แต่บาลินเป็นนายเหนือหัวแห่งมอเรียได้เพียงห้าปี ก็ถูกพวกออร์คสังหาร พวกคนแคระถูกโอบล้อมไว้ไร้ซึ่งทางออก และถูกสังหารทั้งหมด ก่อนที่คณะพันธมิตรแห่งแหวนจะเดินทางมาถึง ที่แห่งนี้ได้กลายเป็น สถานที่ที่น่าสะพรึงกลัวเปรียบเหมือนนรกภายใต้ขุนเขาไปแล้ว

วงศ์วานแห่งดูริน[แก้]

  • Durin I ผู้อมตะ (The Deathless), หนึ่งในเจ็ดบรรพชนของคนแคระ ผู้ค้นพบ บุกเบิก และกษัตริย์องค์แรกแห่งอาณาจักรคาซัดดูม
  • Durin II ดูรินผู้เกิดใหม่
  • Durin III เริ่มเป็นมิตรกับเอลฟ์แห่งเบเลริอันด์ในช่วงที่เขาปกครอง และเป็นคนแรกที่ได้รับแหวนของคนแคระทั้งเจ็ด
  • Durin IV ผู้นำกองทัพคนแคระเข้าร่วมสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย
  • Durin V ดูรินผู้เกิดใหม่
  • Durin VI บุตรของ Durin V เขาถูกบัลร็อกฆ่าในปีที่ 1980 ยุคที่สาม
  • Náin I บุตรของ Durin VI กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งคาซัดดูม ถูกบัลร็อกฆ่าในปีที่ 1981 ยุคที่สาม
  • Thráin I บุตรของ Náin I ผู้ค้นพบเอเรบอร์ในปีที่ 1999 ยุคที่สาม
  • Thorin I บุตรของ Thráin I เขาย้ายจากเอเรบอร์ไปยังเทือกเขาสีเทา
  • Glóin บุตรของ Thorin I
  • Óin บุตรของ Glóin
  • Náin II บุตรของ Óin
  • Dáin I บุตรของ Náin II. กษัตริย์ผู้ปกครองคนแคระที่ เทือกเขาสีเทา (Ered Mithrin) องค์สุดท้าย เขาถูกฆ่าโดยมังกรเย็น (Cold-drake) ในปีที่ 2589 ยุคที่สาม
  • Thrór บุตรของ Dáin I. เขากลับมาที่เอเรบอร์อีกครั้งเพื่อหนีจากการโจมตีของมังกรที่เทือกเขาสีเทา และต่อมาเขาพยายามที่จะทวงเอามอเรีย คืนจากพวกออร์ค และทำสงครามกับพวกออร์คในปีที่ 2790 ยุคที่สาม
  • Thráin II บุตรของ Thrór. เขาสร้างอาณาจักรใหม่ทางตอนเหนือของเทือกเขาสีน้ำเงิน และพยายามทวงเอเรบอร์คืนจากพวกมังกร แต่ระหว่างทางถูกพวกออร์คจับได้ และถูกนำตัวไปยังโดลกุลดัวร์ในปีที่ 2850 ยุคที่สาม เขายังเป็นผู้ถือแหวนหนึ่งในเจ็ดวงสุดท้าย และคนสุดท้ายของพวกคนแคระ
  • ธอริน โอเคนชิลด์ Thorin Oakenshield บุตรของ Thrain II เขาเป็นกษัตริย์แห่งเทือกเขาสีน้ำเงิน จนกระทั่งเขากลับไปเอเรบอร์อีกครั้ง แต่เสียชีวิตในสงครามห้าทัพ (Battle of Five Armies) ในปีที่ 2941 ยุคที่สาม
  • Dáin II หลานของธอริน โอเคนชิลด์ เสียชีวิตในระหว่างสงครามแหวน ในปีที่ 3019 ยุคที่สาม
  • Thorin III Stonehelm บุตรของ Dáin II เป็นกษัตริย์ต่อมา
  • Durin VII บุตรของ Thorin III เขาเป็นดูรินคนสุดท้ายในยุคที่สี่ นับแต่นั้นมาไม่ปรากฏว่ากษัตริย์ใช้ชื่อว่า ดูรินอีกต่อไป หลังจากแหวนถูกทำลายพวกคนแคระก็กลับมาที่คาซัดดูมอีกครั้ง

ดูเพิ่ม[แก้]

อาณาจักรอื่นๆ ของคนแคระ

อ้างอิง[แก้]

  • เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน, Unfinished Tales, ลอนดอน:สำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์