วิทยาลัยช่างศิลป
College of Fine Arts | |
สถาปนา | 4 มีนาคม พ.ศ. 2495 |
---|---|
ผู้อำนวยการ | นายจรัญ หนองบัว |
ที่อยู่ | เลขที่ 60 ซอยหลวงแพ่ง 2 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520 |
มาสคอต | พระพิฆเนศ |
เว็บไซต์ | cfa.bpi.ac.th |
วิทยาลัยช่างศิลป (อังกฤษ: College of Fine Arts) เป็นกลุ่มสถาบันการศึกษาในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยจัดการเรียนการสอนในสาขาศิลปะ ทั้งศิลปะไทยประเพณี และศิลปะร่วมสมัย
ประวัติความเป็นมาวิทยาลัยช่างศิลป[แก้]
วิทยาลัยช่างศิลป มีชื่อเดิมว่า "โรงเรียนศิลปศึกษา" ตั้งขึ้นด้วยความมุ่งหมายเพื่อให้มีฐานะเป็นโรงเรียนเตรียมของมหาวิทยาลัยศิลปากร จึงสังกัดอยู่กับมหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินงานโดยอาศัยเงินงบประมาณของมหาวิทยาลัย และได้ครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัยช่วยทำการสอน นอกจากครูสอนวิชาสามัญมีทั้งครูประจำและเชิญบุคคลภายนอกมาสอนพิเศษเป็นรายชั่วโมง หลักสูตรศิลปะก็จัดวิชาและรายการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรของมหาวิทยาลัยศิลปากร เว้นแต่วิชาสามัญคงดำเนินการสอนตามหลักสูตรชั้นเตรียมอุดมศึกษาแผนกอักษรศาสตร์
โรงเรียนศิลปศึกษา ได้มีประกาศให้ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2495 โดยนายกคณะกรรมการมหาวิทยาลัยศิลปากร และประกาศใช้ข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาของโรงเรียนศิลปศึกษา พุทธศักราช 2495 กำหนดคุณสมบัติและพื้นความรู้ของผู้สมัครเข้าเรียน ค่าธรรมเนียมการเรียน
หลักสูตรในระยะแรกเริ่มนี้คงเปิดสอนเพียงแผนกเดียว คือ แผนกจิตรกรรมและประติมากรรม เป็นหลักสูตร 3 ปี และให้สิทธิ์ผู้สอบได้ชั้นปีที่ 2 ซึ่งได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยศิลปากรโดยไม่ต้องสอบคัดเลือก ส่วนผู้ที่จบการศึกษาตามหลักสูตร 3 ปี จะได้ประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลางของกรมศิลปากร
โรงเรียนศิลปศึกษา เปิดทำการสอนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 มีนักเรียนรุ่นแรกจำนวน 36 คน โดยใช้สถานที่ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นสถานที่เรียนชั่วคราว
- พ.ศ. 2496 – ได้ขยายการสอนเป็น 3 แผนก คือ แผนกจิตรกรรมและประติมากรรม แผนกช่างสิบหมู่ และแผนกโบราณคดี แต่ละแผนกมีกำหนดเวลาเรียน 3 ปี
- พ.ศ. 2497 – กรมศิลปากรได้รับมอบตึกที่ทำการกระทรวงคมนาคมเดิม 3 หลัง จึงได้ยกตึก 2 หลังด้านในให้เป็นอาคารเรียนของโรงเรียนศิลปศึกษา นับแต่นั้นเป็นต้นมาโรงเรียนศิลปศึกษาจึงมีสถานที่เรียนเป็นการถาวร จน พ.ศ. 2503 อาคารเรียนจึงถูกรื้อไปเสียหลังหนึ่งเพื่อสร้างโรงละครแห่งชาติ
- พ.ศ. 2498 – โรงเรียนศิลปศึกษายังคงดำเนินการสอนใน 3 แผนก พร้อมกันนี้มหาวิทยาลัยศิลปากรได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์การรับนักศึกษาใหม่ คือรับนักเรียนที่สอบไล่ได้ชั้นปีที่ 2 เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย แต่ต้องผ่านการสอบคัดเลือกเสียก่อน
- พ.ศ. 2500 – มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงเรียนหลายประการคือ
- ได้มีการกำหนดฐานะของโรงเรียนประเภทเตรียมอุดมศึกษา เรียกชื่อว่า "โรงเรียนศิลปศึกษาเตรียมมหาวิทยาลัยศิลปากร"
- ได้ยุบเลิกแผนกช่างสิบหมู่ คงเหลือไว้เพียง 2 แผนก และเรียกชื่อใหม่ว่า แผนกเตรียมศิลปและแผนกเตรียมโบราณคดี สำหรับการศึกษาใน 2 ปีแรก
- เปลี่ยนมาสังกัดอยู่ในกองหัตถศิลป กรมศิลปากร
- พ.ศ. 2501 – โรงเรียนศิลปศึกษาได้กลับไปสังกัดอยู่กับมหาวิทยาลัยศิลปากรอีกครั้ง จนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2503 เมื่อมหาวิทยาลัยศิลปากรแยกไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีพร้อมกับมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ โรงเรียนศิลปศึกษาจึงกลับมาสังกัดกองหัตถศิลป กรมศิลปากรดังเดิม และพ้นฐานะจากการเป็นโรงเรียนเตรียมของมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ยุบเลิกแผนกโบราณคดี คงเหลือแต่แผนกจิตรกรรมและประติมากรรมแผนกเดียว ส่วนกำหนดเวลาเรียนยังคงเป็น 3 ปี จึงจบหลักสูตร
จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504 เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากรใหม่ มีการตั้งกองศิลปศึกษาขึ้น โรงเรียนศิลปศึกษาจึงมีฐานะเป็นแผนกหนึ่งในกองศิลปศึกษา มีงบประมาณตำแหน่งครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่เป็นของตนเอง และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โรงเรียนช่างศิลป" ในโอกาสนี้ด้วย
- พ.ศ. 2505 – ทางการได้รื้ออาคารเรียนเดิมซึ่งเหลืออยู่เพียงหลังเดียว เพื่อสร้างโรงละครแห่งชาติ จึงได้สร้างอาคารเรียนหลังใหม่เป็นอาคารเรียนถาวรให้แก่โรงเรียนช่างศิลปขึ้นภายในบริเวณเดียวกันกับโรงเรียนนาฏศิลป นับแต่นั้นมา โรงเรียนช่างศิลปได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลาง (เทียบเท่าหลักสูตรครูประถมการช่าง หรือ ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นหลักสูตร 3 ปี จนกระทั่งวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นสูง โรงเรียนช่างศิลป กรมศิลปากร พุทธศักราช 2517 ซึ่งใช้เวลาต่อจากหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลางอีก 2 ปี และเทียบการศึกษานี้เท่ากับหลักสูตรประโยคครูมัธยมการช่าง (ป.ม.ช.) โรงเรียนช่างศิลปจึงได้เปิดให้การศึกษาตามหลักสูตรนี้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2517
ในปีการศึกษา 2518 โรงเรียนช่างศิลปก็ได้ให้การศึกษาแก่นักเรียน ทั้งในระดับประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลางและระดับประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นสูง และผลิตผู้สำเร็จการศึกษาการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นสูงเป็นรุ่นแรก ต่อมา กระทรวงศึกษาธิการได้ยกฐานะโรงเรียนช่างศิลป เป็น วิทยาลัยช่างศิลป เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 และเริ่มขยายกิจการการเรียนการสอนไปที่ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โดยได้เริ่มพัฒนาก่อสร้างอาคารเรียนในที่ดินวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เนื้อที่ประมาณ 63 ไร่ ในปี พ.ศ. 2519 และเริ่มใช้เป็นสถานศึกษาของวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 เป็นต้นมา
- พ.ศ. 2524 – วิทยาลัยช่างศิลปได้ปรับปรุงหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลาง ซึ่งเทียบเท่าประโยคครูประถมการช่าง โดยยกเลิกการเรียนวิชาการศึกษาในหลักสูตรนี้ โครงสร้างของหลักสูตรประกอบด้วย หมวดวิชาสามัญ หมวดวิชาสัมพันธ์ หมวดวิชาชีพภาคทฤษฎี และวิชาชีพภาคปฏิบัติทั้งศิลปะไทยแบบประเพณีและศิลปะร่วมสมัย มีกำหนดเวลาเรียน 3 ปี และเมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลาง (ระดับ ปวช.)
- พ.ศ. 2527 – ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นสูงซึ่งเทียบเท่าหลักสูตรประโยคครูมัธยมการช่าง (ป.ม.ช.) อีกครั้งหนึ่ง โดยยกเลิกการเรียนวิชาการศึกษาเช่นเดียวกับหลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นกลาง โครงสร้างของหลักสูตรจึงประกอบด้วย หมวดวิชาพื้นฐานทั่วไป หมวดวิชาศิลปะ (วิชาพื้นฐานวิชาศิลปะ วิชาศิลปะเฉพาะสาขา วิชาศิลปะเลือก) และหมวดวิชาเลือก โดยให้นักศึกษาเลือกเรียนวิชาศิลปะสาขาต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจในศิลปะเฉพาะสาขา (วิชาเอก) และวิชาศิลปะเลือก (วิชาโท) เมื่อจบการศึกษาแล้วจะได้รับประกาศนียบัตรศิลปศึกษาชั้นสูง (ระดับ ปวส.)
- พ.ศ. 2539 – วิทยาลัยได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรศิลปศึกษาชั้นกลางและหลักสูตรศิลปศึกษาชั้นสูงอีกครั้งหนึ่ง เรียกชื่อว่า หลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2539 (ศ.ปวช.) และหลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2539 (ศ.ปวส.) ตามลำดับ ซึ่งมีสาขาวิชาให้นักศึกษาเลือกเรียนอย่างหลากหลาย สอดคล้องกับแนวนโยบายปฏิรูปการศึกษาและสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม
- พ.ศ. 2545 – วิทยาลัยช่างศิลปเปลี่ยนหน่วยงานต้นสังกัดจากสถาบันศิลปกรรมมาเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตามประกาศกรมศิลปากร เรื่องการแบ่งส่วนราชการ หน่วยงาน และสถานศึกษาของกรมศิลปากร ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2545
- พ.ศ. 2546 – ปรับหลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2539 มาเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2544 วิทยาลัยช่างศิลป ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542
- พ.ศ. 2550 – วิทยาลัยช่างศิลปและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์แยกตัวจากกรมศิลปากร ตามพระราชบัญญติสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนที่ 32 ก วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
- พ.ศ. 2552 – วิทยาลัยช่างศิลปปรับโครงสร้างการบริหารให้เป็นไปตามประกาศของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยให้มีการสรรหาผู้อำนวยการวิทยาลัย และผู้อำนวยการคนแรกที่มาจากระบบการสรรหา คือ อาจารย์สมบัติ กุลางกูร
วิสัยทัศน์ และพันธกิจ วิทยาลัยช่างศิลป[แก้]
วิสัยทัศน์
วิทยาลัยช่างศิลป มุ่งจัดการศึกษาด้านศิลปะ ที่คำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสอดคล้องกับความต้องการของสังคม
ด้วยการบริหารจัดการที่มี นโยบาย เป้าหมายที่ชัดเจนเป็นระบบ
พันธกิจ
1.จัดการเรียนการสอนศิลปะอย่างมีคุณภาพ โดยคำนึงถึงการพัฒนาศักยภาพตามธรรมชาติของผู้เรียน ด้วยหลักสูตรที่กำหนดคุณลักษณะเฉพาะอันพึงประสงค์
และสอดคล้องกับความต้องการของสังคม
2.ปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
3.พัฒนาบุคลากรทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4.จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้แก่ผู้เรียน
5.พัฒนาระบบการสนับสนุน และการบริหารด้านต่างๆ ให้เอื้อต่อการเนินงานของวิทยาลัย
หลักสูตรการศึกษา[แก้]
วิทยาลัยช่างศิลป จัดการศึกษาทางด้านศิลปกรรมในระดับวิชาชีพและระดับอุดมศึกษา โดยพัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับมาตรฐานการอาชีวศึกษา
ส่วนการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยได้พัฒนาหลักสูตรต่อเนื่องทางด้านปฏิบัติการ หรือวิชาชีพ เพื่อรองรับผู้จบหลักสูตรศิลปกรรม ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงให้เข้าศึกษาต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความเห็นชอบหลักสูตรจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แล้ว
การจัดการศึกษาในแต่ละหลักสูตร มีรายละเอียด ดังนี้
หลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ศ.ปวช.)
วิทยาลัยช่างศิลป ได้ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปรับปรุง) พุทธศักราช 2560 เป็นหลักสูตร 3 ปี
รับผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) หรือเทียบเท่า โดยนักเรียนจะต้องศึกษารายวิชาต่างๆ ประกอบด้วย
1. หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ศึกษาในรายวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา และวิชาภาษาอังกฤษ
2. หมวดวิชาเฉพาะ
2.1 หมวดพื้นฐานวิชาชีพ (ทฤษฎี) ได้แก่ วิชาทฤษฎีสี วิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ วิชากายวิภาค และวิชาทัศนียวิทยา
2.2 หมวดพื้นฐา���วิชาชีพ (ปฏิบัติ) ได้แก่ วิชาวาดเส้น วิชาองค์ประกอบศิลป์ และวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกส์
2.3 หมวดวิชาชีพ ได้แก่ วิชาศิลปะไทย จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ออกแบบตกแต่ง ลายรดน้ำ สถาปัตยกรรมไทย และเครื่องเคลือบดินเผา
2.4 หมวดวิชาเลือกเสรี เปิดให้ลงทะเบียนรายวิชาต่างๆ ตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียน
3. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เปิดให้ผู้เรียนเลือกชมรม กิจกรรมเสริมหลักสูตร หรืออาสารักษาดินแดน (รด.)
หลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ศ.ปวส.)
เป็นหลักสูตร 2 ปี รับจากผู้สำเร็จการศึกษาศิลปกรรม ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ศ. ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ด้านศิลปะ) หรือรับผู้จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
ที่มีทักษะความสามารถด้านศิลปะในแขนงที่เกี่ยวข้อง
หลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ศ.ปวช.) |
หลักสูตรศิลปกรรมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ศ.ปวส.)
|
หลักสูตรระดับปริญญาตรี ศิลปบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาทัศนศิลป์
|
วิทยาลัยช่างศิลป 3 แห่ง[แก้]
- วิทยาลัยช่างศิลป เก็บถาวร 2013-03-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี เก็บถาวร 2017-11-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วิทยาลัยช่างศิลปนครศรีธรรมราช เก็บถาวร 2017-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ทำเนียบผู้บริหาร[แก้]
โรงเรียนศิลปศึกษา | ||
---|---|---|
ลำดับ | ผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
อาจารย์ประยูร โชติกะพุกกณะ | พ.ศ. 2495 | |
อาจารย์เรณู ยศสุนทร | พ.ศ. 2495 – พ.ศ. 2497 | |
อาจารย์ประยูร อุลุชาฎะ | พ.ศ. 2497 – พ.ศ. 2499 | |
อาจารย์อรุณ โลหะชาละ | พ.ศ. 2499 – พ.ศ. 2500 | |
อาจารย์ละม่อม โอชกะ | พ.ศ. 2500 | |
อาจารย์สะอาด บัวชาติ | พ.ศ. 2500 – พ.ศ. 2502 | |
โรงเรียนช่างศิลป | ||
ลำดับ | ผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
อาจารย์สะอาด บัวชาติ | พ.ศ. 2503 – พ.ศ. 2504 | |
อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข | พ.ศ. 2504 – 2517 | |
วิทยาลัยช่างศิลป | ||
ลำดับ | ผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข | พ.ศ. 2517 – พ.ศ. 2528 | |
อาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว | พ.ศ. 2528 – พ.ศ. 2534 | |
อาจารย์ธงชัย รักปทุม | พ.ศ. 2534 – พ.ศ. 2542 | |
อาจารย์กมล สุวุฒโฑ | พ.ศ. 2542 – พ.ศ. 2547 | |
อาจารย์พัชรี ผลานุรักษา | พ.ศ. 2547 – พ.ศ. 2550 | |
อาจารย์สุขุม บัวมาศ | พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2551 รักษาการ พ.ศ. 2551 – พ.ศ. 2552 | |
อาจารย์สมบัติ กุลางกูร | พ.ศ. 2552 – พ.ศ. 2556 | |
อาจารย์บุญพาด ฆังคะมะโน | พ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2560 | |
อาจารย์จรัญ หนองบัว | พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน |
อ้างอิง[แก้]
ดูเพิ่ม[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์วิทยาลัยช่างศิลป เก็บถาวร 2013-03-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เฟซบุ๊กวิทยาลัยช่างศิลป