ข้ามไปเนื้อหา

เอ็ดเวิร์ด สมิธ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ)
เอ็ดเวิร์ด สมิธ

สมิธ ใน ค.ศ. 1912
เกิดเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ
27 มกราคม ค.ศ. 1850(1850-01-27)
แฮนลีย์ สแตฟฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ
เสียชีวิต15 เมษายน ค.ศ. 1912(1912-04-15) (62 ปี)
มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
สาเหตุเสียชีวิตการอับปางของเรือ ไททานิก
อาชีพกัปตันเรือ, ทหารเรือ
นายจ้างไวต์สตาร์ไลน์
มีชื่อเสียงจากกัปตันเรือ ไททานิก
คู่สมรสซาราห์ อี. เพนนิงตัน (สมรส 1887)
บุตรเฮเลน เมลวิลล์ สมิธ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้สหราชอาณาจักร
แผนก/สังกัดกำลังพลสำรองราชนาวี
ชั้นยศนาวาโท
การยุทธ์สงครามบูร์ครั้งที่สอง

เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ (อังกฤษ: Edward John Smith) (27 มกราคม ค.ศ. 1850 - 15 เมษายน ค.ศ. 1912) หรือมีชื่อย่อว่า เอ็ดเวิร์ด เจ. สมิธ เป็นกัปตันเรือที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีผลงานที่โดดเด่นมากก็คือการได้เป็นกัปตันเรือ อาร์เอ็มเอส ไททานิก อันเป็นเรือลำสุดท้ายในชีวิตของเขา ที่เขาได้ดำรงตำแหน่งกัปตันจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตบนเรือลำนี้ เรือที่ได้รับฉายาว่า "เรือที่ไม่มีวันจม"

ประวัติ

[แก้]

สมิธเกิดที่เมืองฮันลีย์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1850 ในรัชสมัยของ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เขาเป็นลูกชายของ เอ็ดเวิร์ด สมิธ กับ คาธีริน แฮนคอคค์ ซึ่งครอบครัวของสมิธนั้นมีร้านค้าเป็นของตัวเองในสตาฟฟอร์ดไชร์ สมิธได้เข้าในโรงเรียนอีทรูเรีย บริทิช ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้านในสตาฟฟอร์ดไชร์ จนกระทั่งเขาอายุ 13 ปี ก็ได้เริ่มต้นชีวิตการเดินเรือที่ลิเวอร์พู ต่อมาในปี ค.ศ. 1887 สมิธได้แต่งงานกับ ซาราห์ อีลีนอร์ เพนนิงทัน ในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1887 ��ั้งสองมีลูกสาวด้วยกันคือ เฮเลน เมลวิลลี สมิธ เธอเกิดที่ วอเตอร์ลู แลนคาไชร์ เมื่อปี ค.ศ. 1898 ครอบครัวของสมิธอาศัยอยู่ใน เซาแธมป์ทัน สหราชอาณาจักร

ไททานิก

[แก้]
กัปตันสมิธ ผู้บัญชาการเรือไททานิก

กัปตันสมิธได้รับหน้าที่บัญชาการเรือไททานิกเมื่อ ค.ศ. 1912 ซึ่งในขณะนั้น เรือไททานิกถือได้ว่าเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการเดินทางไปกับเรือไททานิกของสมิธครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นรอบสุดท้ายก่อนเกษียณของตัวเขาเองอยู่แล้ว เพราะตอนนั้นสมิธอายุได้ปาเข้าไป 62 ปีแล้ว เรือไททานิกเป็นเรือเดินสมุทรของบริษัทไวท์สตาร์ไลน์ มีระวางขับน้ำมากกว่า 50,000 ตัน เรือยาวเกือบ 270 เมตร กว้างกว่า 28 เมตร จุผู้โดยสารได้กว่า 2,000 คน เป็นเรือที่หรูหรามากในยุคนั้น เรือไททานิกได้ออกเดินทางครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1912 เพื่อแวะตามท่าเรือต่าง ๆ ในบริเวณนั้น แล้วจึงมุ่งหน้าเดินทางไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงวันแรกๆของการเดินทางนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 ซึ่งในวันนั้น ไททานิกได้รับคำเตือนหลายครั้งเรื่องภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

วาระสุดท้าย

[แก้]
เรือไททานิก

ช่วงดึกของวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 เมื่อมีการพบภูเขาน้ำแข็งขวางเส้นทางของไททานิก จึงมีการเลี้ยวเรือหลบ ทว่าไม่สามารถหลบได้พ้น ทำให้เรือไททานิกได้แล่นเฉี่ยวชนกับภูเขาน้ำแข็ง ทำให้เกิดรอยรั่วยาวหลายเมตรที่กราบขวาด้านหัวเรือ ส่งผลให้น้ำเริ่มท่วมเข้ามาในตัวเรืออย่างรวดเร็ว หลังจากกัปตันสมิธ โธมัส แอนดรูวส์ วิศวกรผู้ออกแบบไททานิก และวิศวกรคนอื่นๆได้ตรวจดูความเสียหายแล้ว ก็พบว่าเรือไททานิกคงทนอยู่ได้ไม่กี่ชั่วโมง จึงได้มีการขนย้ายผู้คนไปยังเรือบดสำรอง ซึ่งมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบจำนวนผู้โดยสารที่มีมากกว่า 2,000 คน แต่เรือสำรองสามารถจุผู้โดยสารรวมกันได้ประมาณ 1,200 คนเท่านั้น แต่การขนย้ายผู้โดยสารในช่วงแรกเป็นไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนของวันถัดมา คือ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 สถานการณ์เริ่มวุ่นวายเมื่อผู้โดยสารรู้ว่าเรือกำลังจะจม มีการยิงพลุและใช้สัญญาณเอสโอเอส (SOS) เพื่อขอความช่วยเหลือจากเรือลำอื่น แต่ก็ไม่ทันการณ์เมื่อไททานิกได้จมลงสู่ท้องมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณ 2.00 น. ซึ่งการจมของเรือไททานิกครั้งนี้ มีผู้รอดชีวิตเพียง 700 กว่าคน มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน

และหนึ่งในผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คนนั้นก็คือกัปตันเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ กัปตันที่ยืนหยัดอยู่กับลูกเรือและผู้โดยสารจนถึงวาระสุดท้ายของเขาเองในวัย 62 ปีในเรือไททานิก ไม่ทราบได้ว่ากัปตันเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ เสียชีวิตลงอย่างไรในคืนนั้น แต่มีพยานบอกว่าเขาได้เห็นกัปตันครั้งสุดท้ายเมื่อเข้ามาหานายท้ายบนสะพานและเสียชีวิตที่นั่น ในขณะที่เรือไททานิกจมลงสู่ใต้ผิวน้ำ[1][2][3]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Spignesi, Stephen (2012). The Titanic for Dummies. John Wiley & Sons. p. 207. สืบค้นเมื่อ November 6, 2012.
  2. Bartlett 2011, p. 224.
  3. Ballard, pp. 40–41

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]